น้องๆ หลายคนอาจจะมีคำถามว่า ตอนนี้ที่ UK เป็นยังไงบ้าง? น่ากลัวไหม? ไปเรียนปีนี้ได้ไหม? มาตราการคลายล็อกดาวน์ไปถึงไหนแล้ว? จะเดินทางไปเรียนที่อังกฤษต้องเตรียมตัวยังไงบ้าง?
ต้องบอกก่อนเลยว่าสถานการณ์ในอังกฤษ ณ ตอนนี้ ดีขึ้นเป็นอย่างมากเลยค่ะ สามารถเดินทางไปได้อย่างปลอดภัย เนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อที่ลดลงเป็นอย่างมากในทุกๆวัน บวกกับมาตราคลายล็อกดาวน์ที่รัฐบาลประกาศ ทำให้หลายๆอย่างกลับมาเป็นปกติเหมือนเดิมแล้ว น้องๆที่มีแพลนจะไปเรียนในเร็วๆนี้สบายใจได้เลย ว่าปลอดภัย หายห่วงแน่นอนค่ะ
วันนี้พี่ๆ WIN EDUCATION เลยขออาสามาอัพเดทข้อมูลเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับน้องๆ ที่กำลังตัดสินใจไปเรียนต่อ และน้องๆที่กำลังจะเดินทางไปเรียนต่อเร็วๆ นี้
ช่วงที่ผ่านมาน้องๆรวมถึงผู้ปกครองหลายๆ ท่านอาจมีความกังวลใจกับสถานการณ์โควิดที่ประเทศอังกฤษ เนื่องจากมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา โดยพบผู้ติดเชื้อมากสุดถึง 68,053 คน ในวันที่ 6 ม.ค. 64
จำนวนผู้ติดเชื้อ โควิด-19 ที่ UK รายวัน ตั้งแต่วันที่ 2 ก.พ.63 – 7 พ.ค. 64
อย่างไรก็ตามรัฐบาลของอังกฤษก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้มีการประกาศล็อกดาวน์ถึง 3 ครั้ง (ตั้งแต่เกิดการระบาดของโควิด) โดยครั้งล่าสุดคือตั้งแต่วันที่ 5 ม.ค.64 จนถึงกลางเดือนก.พ. เป็นระยะเวลารวมประมาณ 6 สัปดาห์ โดย ณเวลานั้น เป็นช่วงเดียวกันกับที่อังกฤษได้รับวัคซีนที่มีคุณภาพมาฉีด และเริ่มฉีดให้ประชาชนตั้งแต่วันที่ 10 ม.ค.64 บวกกับระบบการจัดการวัคซีนที่มีคุณภาพ ทำให้ประชาชนได้รับการฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
จำนวนผู้ที่ได้รับวัคซีน dose แรกและ dose สอง (คิดเป็น % จากจำนวนประชากรทั้งหมด)
- ประชาชนได้รับวัคซีน dose แรกเป็นจำนวน 35,472,292 คน หรือคิดเป็น 67%ของจำนวนประชากรทั้งหมด (ข้อมูลอัพเดทตั้งแต่วันที่ 10 ม.ค.- 9 พ.ค. 64)
- ประชาชนได้รับวัคซีน dose สองเป็นจำนวน 17,856,550 หรือคิดเป็น 34%ของจำนวนประชากรทั้งหมด (ข้อมูลอัพเดทตั้งแต่วันที่ 10 ม.ค.- 9 พ.ค. 64)
จะเห็นได้ว่าหลังจากที่ประชาชนได้รับวัคซีนแล้ว จำนวนผู้ติดเชื้อลดลงอย่างรวดเร็วและมีแนวโน้มที่จะลดลงในทุกๆวัน
โดยรวมแล้วสถานการณ์โควิดที่ประเทศอังกฤษดีขึ้นเป็นอย่างมาก และมีแนวโน้มจะดีขึ้นเรื่อยๆ ในอนาคตอย่างแน่นอนค่ะ อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าสถานการณ์โดยรวมของประเทศอังกฤษจะดีขึ้นมากแล้ว แต่น้องๆ และผู้ปกครองหลายๆท่าน อาจจะยังกังวลอยู่ว่า แล้วเมืองที่น้องๆ จะเดินทางไปเรียนหละ มีผู้ติดเชื้อเยอะไหม? และสถานการณ์ในเมืองนั้นเป็นยังไงบ้าง?
ต้องบอกเลยว่า ณ ตอนนี้ จำนวนผู้ติดเชื้อในแต่ละเมืองลดลงเยอะมากๆ จนแทบจะไม่มีแล้วค่ะ ไปดูสถานการณ์ในแต่ละเมืองของประเทศอังกฤษกันค่ะ
สถานการณ์โควิด-19 ในแต่ละเมืองของประเทศอังกฤษ (covid-19 case rates across the UK)
จะเห็นได้ว่าจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ย้อนหลัง 7 วัน ส่วนมากจะอยู่ที่ 0-9 เคส (พื้นที่สีเหลือง) และ 10-49 เคส (พื้นที่สีเขียว) ซึ่งเป็นจำนวนที่น้อยๆมากเลย และมีแนวโน้มที่จะลดลงทุกๆวันค่ะ
เนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อลดลงอย่างมาก ทางรัฐบาลอังกฤษจึงได้ประกาศมาตรการคลายล็อกดาวน์ออกมา โดยแบ่งเป็นทั้งหมด 4 ระดับด้วยกัน โดย ณ ขณะนี้ (11 พ.ค. 64) จะอยู่ในแผนการคลายล็อกดาวน์ระดับที่ 2 โดยมาตราการคลายล็อกดาวน์ตั้งแต่ระดับ 1-4 จะมีอะไรบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ
มาตราการคลายล็อกดาวน์ UK
- ยกเลิกกฎ “Stay at Home” แต่ขอให้ทำงานจากที่บ้าน
- โรงเรียนเริ่มเปิดเรียนปกติ
- พบปะผู้คนต่างครัวเรือนได้ 1 คน ตั้งแต่ 29 มี.ค.เป็นต้นไป
- รวมกลุ่มไม่เกิน 6 คน ในที่กลางแจ้งได้
- สามารถทำกิจกรรมและกีฬากลางแจ้งได้
- เดินทางต่างประเทศได้เฉพาะกรณีที่มีเหตุอันควร
- เปิดร้านค้าปลีก/ร้านบริการ/อาคารสาธารณะ
- เปิดผับ/ร้านอาหาร โดยนั่งรับประทานได้เฉพาะนอกอาคารและจำกัดโต๊ะละไม่เกิน 6 คนจากครัวเรือนเดียวกัน
- เปิดธุรกิจที่พักแบบ self-catering หรือ แคมป์กลางแจ้ง
- เปิดสถานที่พักผ่อนหย่อนใจนอกอาคารต่างๆรวมทั้งยิมและสระว่ายน้ำในร่ม
- จัดพิธีศพ/แต่งงานโดยจำกัดจำนวนผู้เข้าร่วม
- ผับและร้านอาหารเปิดบริการในอาคารได้ โดยจำกัดโต๊ะละไม่เกิน 6 คน/ไม่เกิน 2 ครัวเรือน
- เปิดธุรกิจโรงแรมที่พักต่างๆ
- เปิดโรงภาพยนตร์ พิพิธภัณฑ์และศูนย์บริการในร่ม
- การแข่งขันกีฬาอาชีพเปิดให้มีผู้ชมได้ไม่เกิน 10,000คน หรือไม่เกินร้อยละ 25 ของความจุ
- เปิดธุรกิจการแสดงโดยจำกัดผู้เข้าร่วมครึ่งหนึ่งของความจุหรือไม่เกิน 1,000 คน(ในอาคาร)/4,000 คน(นอกอาคาร)
- ยกเลิกมาตรการจำกัดการพบปะทางสังคมทั้งหมด
- ทุกคนกลับไปทำงานในสถานที่ทำงานได้
- ธุรกิจสันทนาการเปิดบริการ
ได้เห็นกันแล้วว่า ตอนนี้ที่อังกฤษกำลังอยู่ในช่วงคลายล็อกดาวน์ ตามแพลนของรัฐบาล หลังจากวันที่ 21 มิ.ย. เป็นต้นไป สถานการณ์จะกลับมาเป็นปกติทุกอย่าง เพราะฉะนั้น น้องๆ และผู้ปกครองมั่นใจได้เลยว่า สามารถเดินทางไปเรียนได้อย่างปลอดภัยแน่นอนค่ะ
และหากน้องๆ หรือผู้ปกครองยังคงมีข้อสงสัยว่า ในช่วงนี้ถ้าจะเดินทางไปที่อังกฤษต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง? และเมื่อไปถึงต้องทำอะไรบ้าง? ไม่ต้องเป็นห่วงเลยค่ะ พี่ๆ WIN EDUCATION มีคำตอบมาให้ค่ะ ไปดูกันเลย
การเตรียมตัวก่อนเดินทางและหลังเดินทางถึง UK
- ประมาณ 1 สัปดาห์ก่อนเดินทาง จะต้องสั่งซื้อชุดตรวจโควิด-19 เพื่อใช้ตรวจวันที่ 2 และวันที่ 8 ในช่วงกักตัวหลังเดินทางถึงอังกฤษแล้ว พร้อมเตรียมหลักฐานมาแสดง โดยชุดตรวจโควิดจะมีราคาตั้งแต่ £105-£549 ดูรายละเอียดเพิ่มเติมและสั่งซื้อชุดตรวจ คลิก
- ไม่เกิน 3 วัน หรือ 72 ชั่วโมงก่อนเดินทาง จะต้องตรวจหาเชื้อโควิด-19 และจะต้องมีผลเป็นลบ (ไม่พบเชื้อ) โดยผลตรวจต้องเป็นต้นฉบับภาษาอังกฤษที่ได้รับจากโรงพยาบาลหรือคลินิกที่ได้รับการรับรอง ดูรายละเอียดเพิ่มเติม คลิก
- ไม่เกิน 2 วันหรือ 48 ชั่วโมงก่อนเดินทาง จะต้องกรอกข้อมูลในแบบฟอร์ม Passenger Locator Form ดูรายละอียดเพิ่มเติมและกรอกแบบฟอร์ม คลิก
- ต้องกักตัวเป็นเวลา 10 วันและปฎิบัติตามข้อกำหนดอย่างเคร่งครัด หากฝ่าฝืนจะถูกปรับเป็นเงิน 10,000 ปอนด์ ดูรายละเอียดเพิ่มเติม คลิก
- ตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยชุดตรวจที่ท่านได้สั่งไว้โดยตรวจในวันที่ 2 และวันที่ 8 หลังจากเดินทางถึง
หมายเหตุ:
1. หากเดินทางไปอังกฤษด้วย (Visitor Visa)จะต้องหลีกเลี่ยงการเดินทางผ่านประเทศที่จัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยง (Red List) มิฉะนั้นจะถูกปฎิเสธการเข้าเมือง รายชื่อประเทศกลุ่มเสี่ยง คลิก
2. สำหรับผู้ที่มีถิ่นพำนักในอังกฤษ (ผู้ที่มีถิ่นพำนักถาวร คนทำงาน นักเรียน/นักศึกษา) หากเดินทางผ่านประเทศที่อยู่ใน Red List รวมถึงกาตาร์และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ จะต้องกักตัวในโรงแรมที่รัฐบาลกำหนด จองโรงแรม คลิก
3. ไม่มีข้อยกเว้นใดๆสำหรับผู้ที่ได้รับวัคซีนโควิด-19 แล้ว
สำหรับน้องๆ และผู้ปกครองที่ต้องการเดินทางไปอังกฤษในช่วงนี้ พี่ๆ WIN EDUCATION แนะนำให้เดินทางโดยสายการบินที่บินตรงถึงอังกฤษเลย เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกปฏิเสธการเข้าประเทศและต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มจากการกักตัวในโรงแรมที่รัฐบาลจัดให้ ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่มากพอสมควรเลยค่ะ
จะเห็นได้ว่าสถานการณ์ที่อังกฤษไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด สามารถเดินทางไปได้ เพียงแต่ว่าน้องๆต้องปฎิบัติตามคำแนะนำของรัฐบาลอังกฤษอย่างเคร่งครัด เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาตามมาในภายหลัง โดยพี่ๆ เชื่อว่าสถานการณ์จะกลับมาเป็นปกติภายในเร็ววันอย่างแน่นอนค่ะ หากน้องๆมีคำถามเพิ่มเติมสามารถสอบถามพี่ๆWIN EDUCATION ได้เลยค่ะ พี่ๆทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายน้า
คลิกที่นี่เพื่อดูรายชื่อมหาวิทยาลัยที่ WIN EDUCATION เป็นตัวแทน
